วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การให้อาหารปลาคาร์ฟ

อาหารปลาคาร์ฟ
          การให้อาหารปลาคาร์ฟนั้น มีข้อที่ต้องคำนึงถึงมาก ไม่เพียงแต่ ต้องคำนึงถึงความต้องการทางโภชนาการของปลา ยังต้องคำนึงถึงจำนวน ครั้งที่ให้อาหารและอุณหภูมิของน้ำด้วย แม้ว่ามันจะดูยุ่งยาก แต่ว่าการ ให้อาหารแก่ปลาคาร์ฟนั้นจะกลายเป็นเรื่องที่สนุกและเพลิดเพลิน ปลาคาร์ฟสามารถกินได้ทุกอย่าง รวมถึงพืชและสัตว์น้ำด้วยแต่ในทางกลับกัน พวกมันก็เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะเอาใจยาก อย่างไรก็ตามเพราะว่าปลาคาร์ฟเป็นปลาที่ทนทานต่อสภาพน้ำเย็นได้ อาหารของพวกมันก็จะขึ้นอยู่ กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย และอุณหภูมิของน้ำ ขนาดและอายุของปลาคาร์ฟจะเป็นตัวบอกคุณว่า พวกมันต้องการบริโภคอาหารแค่ไหน ปลาคาร์ฟที่ยังเล็กอยู่จะต้องการอาหาร เพื่อช่วยในการเจริญเติบโต และช่วยใน กระบวนการเผาผลาญอาหาร

          ปลาคาร์ฟเป็นปลาที่แตกต่างจากปลาประเภทอื่น คือพวกมันไม่ มีกระเพาะอาหารจริง การย่อยอาหารนั้นจะเริ่มจากปาก โดยอาหารจะถูก บดโดยฟันกราม ส่วนอัตราการย่อยอาหารก็เหมือนกับความต้องการทาง โภชนาการ คือขึ้นอยู่กับอายุของปลาอุณหภูมิของน้ำ และการย่อย

          ชนิดของอาหารของปลาคาร์ฟนั้นมีหลายชนิด ปลาคาร์ฟเป็น สัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ พวกมันจะกินอาหารที่ต้องผ่านกระบวนการพเศษ เช่น red worms earthworms tubbier brine shrimp (ไรน้ำเค็ม) mosquito larvae (ตัวอ่อนของยุง) fruit flies (แมลงวันตัวเล็ก) crab (ปู) lobster (กุ้งก้ามกราม) oyster (หอยนางรม) และ clam (หอยกาบ) และผักที่บรรจุลงกระป่อง เช่น ถั่วและผักสด เช่น ผักขม บร็อค โคลี่ และกะหล่ำดอก เป็นต้น

อาหารที่มีโภชนาการ

          ปลาคาร์ฟก็เหมือนสัตว์ทั่วๆ ไป คือต้องการอาหารที่มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ปลาคาร์ฟจะควบคุมปริมาณอาหารที่ตัวเองต้องการได้ แม้ว่าสาหร่ายที่อยู่ในบ่อปลาจะเป็นแหล่งอาหารให้กับปลาคาร์ฟแต่พวกมันยัง คงต้องการให้คุณเป็นคนให้อาหารที่มีประโยชน์แก่มัน

          โปรตีน

          โปรตีนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเนื้อเยื่อสัตว์ การให้สารอาหารโปรตีนอย่างคงที่เป็นสิ่งที่ปลาคาร์ฟนั้นต้องการ เพื่อที่จะช่วยในการ เจริญเติบโต โปรตีนนั้นได้มาจากพืช สัตว์ และแบคทีเรีย ปลาคาร์ฟตัวเล็ก ต้องการโปรตีนมากกว่าปลาคาร์ฟที่มีขนาดโตกว่าและแก่กว่า ตัวอ่อนของ สัตว์และลูกปลาแซลมอนจะให้สารอาหารโปรตีน 37-42 % ขณะที่ปลาคาร์ฟที่โตเต็มที่แล้วต้องการโปรตีนเพียง 28-32 % เท่านั้น โปรตีนเป็นสารอาหาร ที่ย่อยยากกว่าสารอาหารอื่นๆ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า สารอาหารโปรตีนควรให้ในปริมาณที่น้อยลงเมื่อถึงฤดูหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิ และ ปลายฤดูใบไม้ร่วง อย่างไรก็ตาม อาหารสำหรับปลาคาร์ฟที่มีปริมาณโปรตีน น้อยกว่า 28 % จะมีผลท่าให้ปลาคาร์ฟไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร

          โปรตีนประกอบไปด้วยโมเลกุลเล็กๆ ที่เรียกว่า กรดอะมิโน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมีอยู่ 10 ชนิด ภาวะที่ขาดแคลนกรดอะมิโนจะมีผลท่าให้น้ำหนักลด และความอยากอาหารก็จะลดลงด้วย ควรจะสังเกตดูว่า อาหารสำหรับปลาคาร์ฟที่ขายอยู่ตามท้องตลาดนั้น มีส่วน ประกอบที่สำคัญเป็นกรดอะมิโนหรือไม่

          ไขมัน

          ไขมันหรอของเหลวเป็นแหล่งพลังงานอันดับcรกและเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอวัยวะภายในและเชลล์ เราสามารถแบ่งออกได้เป็น2 ชนิด คือ ไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวจะถูกใช้มาก กว่าไขมันอิ่มตัว อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากนั้น ได้มาจากเนื้อหมู เนื้อวัว หรือสัตว์ปีก ซึ่งจะไม่มีประโยชน์ต่อปลาคาร์ฟเลย ไขมันเหล่านี้จะไป สะสมอยู่ที่อวัยวะภายในของปลา ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อปลา อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวนั้น ปลาคาร์ฟจะชอบมากกว่า อาหารที่มีไขมัน 5-8 % เป็นปริมาณที่เหมาะสมต่อปลาคาร์ฟมากที่สุด ปริมาณที่มีไขมันมาก เทินไปจะเป็นสาเหตุให้ปลามีน้ำหนักเกินและเกิดการสะสมไขมันได้ ขณะที่ภาวะขาดแคลนไขมัน จะเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหากับหัวใจและการ สึกกร่อนของครีบปลา

          คาร์โบไอเดรด

          คาร์โบไฮเดรต ก็เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับให้พลังงานกับปลาคาร์ฟอาหารส่วนมากที่ขายอยู่นั้น จะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง แหล่งอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ และข้าวสาร การศึกษาส่าสุดนั้นพบว่า ปลาคาร์ฟไม่สามารถย่อยคาร์โบไฮเดรตได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนแต่ก่อน ดังนั้น อาหารประเภทธัญพืชควรหลีกเลี่ยง ส่วนอาหารที่ไม่เหมาะสมที่จะนำมาให้ปลาคาร์ฟได้แก่ ขนมปัง อาหารสุนัข และอาหารจำพวกธัญพืช

          วิตามิน

          วิตามินก็เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญเช่นกัน เพราะพวกมันจะช่วยเผาผลาญพลังงานที่จำเป็น วิตามินมีทั้งที่ละลายในนั้นเละละลายใน ไขมัน วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามิน B เชิงช้อน และวิตามิน C ส่วนวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A E และ K ภาวะที่ขาดวิตามิน จะเป็นสาเหตุให้ไม่อยากอาหาร เจริญเติบโตช้า ตาโปน และ กระดูกที่มีลักษณะผิดปกติ วิตามินจะถูกทำลายเมื่อถูกความร้อน อากาศ และโลหะ วิตามินที่อยู่ในอาหารจะสูญหายไปได้นั้น เนื่องจากกระบวนการผลิตและที่จัดเก็บ ดังนั้น อาหารเสริมวิตามินจะมีประโยชน์กับปลาคาร์ฟมาก แหล่งอาหารที่มีวิตามินมากที่สุดคือ พืชสีเขียว ผัก ผลไม้ ตับ และน้ำมันปลา อาหารเหล่านี้ควรจะใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับปลาคาร์ฟเพราะฉะนั้นภาวะขาดแคลนวิตามินก็จะไม่เกิด

          Mealtime Bonus สำหรับผู้ที่เลี้ยงปลาคาร์ฟนั้น เวลาให้อาหาร คอเวลาที่เป็นมากกว่าการสนุกสนานที่จะมองดูปลาคาร์ฟกินอาหารเท่านั้น เวลานี้เหมาะสำหรับจะสังเกตปลาคาร์ฟว่าพวกมันเคลื่อนไหว หรือว่ากิน อาหารดีไหม พยายามจ้องดูปลาแต่คะตัวว่ามีอาการของโรคหรือไม่

          แร่ธาตุ

          แร่ธาตุจะช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญ อาหาร แร่ธาตุเป็นสารอาหารที่สามารถได้มาโดยตรงจากน้ำหรืออาหาร ปริมาณแร่ธาตุจำนวนมากเป็นสิ่งสำคัญกับสุขภาพของปลาอย่างยิ่ง เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง สังกะสี แมกนีเซียม กำมะถัน ไอโอดีน เหล็ก และโคบอลต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แคลเซียมและฟอสฟอรัส นั้นเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับปลาคาร์ฟมาก ภาวะที่ขาดแคลนแร่ธาตุจะเป็นสาเหตุให้กระบวนการสร้างกระดูกแย่ลงเจริญเติบโตช้า และความอยากอาหารลดลง แหล่งแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ พวกผักต่างๆ เช่น ผักขม กะหล่ำปลี และผักกาดหอม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น