การจัดประเภทของอาหารปลาคาร์ฟ
การจัดประเภทของอาหารเบื้องต้นมีอยู่ 4 ประเภท คือ อาหารที่เตรียมสำเร็จ อาหารแช่แข็ง อาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิต และอาหารธรรมดา ส่วนอาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิตจะเป็นอันตรายกับปลาได้ เพราะมันเป็นพาหะของเชื้อโรคและพยาธิอาหารสำเร็จรูป
อาหารที่เตรียมสำเร็จส่วนมากจะประกอบไปด้วยสารอาหารที่ปลาคาร์ฟต้องการ 3 ประเภท คือ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ปลาคาร์ฟควรจะได้รับอาหารเสริมที่มีวิตามีนและเกลอแร่ด้วย อาหารเหล่านี้จะ ประกอบอยู่ในหลายรูปแบบ แต่ส่วนมากอาหารของปลาคาร์ฟจะถูกอัดเป็นเม็ดกลมๆ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในการนำมาเลี้ยงปลาคาร์ฟซึ่งบางชนิด ออกแบบมาให้จม และบางชนิดออกแบบมาให้ลอย มีหลายขนาดอาหารเม็ดแบบลอย คนเลี้ยงปลาคาร์ฟส่วนมากจะชอบมากกว่าแบบจม เพราะเวลาให้อาหารแบบลอยนั้น คนเลี้ยงจะมีโอกาสได้ดูปลาออกมากินอาหารที่ผิวน้ำ และจะได้เพลิดเพลินไปกับมันด้วย นอกจากนั้น คนเลี้ยงยัง สามารถตรวจดูจำนวนปลาคาร์ฟได้อกด้วย อาหารเม็ดแบบจม จะเป็นสาเหตุของการให้อาหารมากเกินไป เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า เราให้ไป มากน้อยแค่ไหน เพียงพอหรอไม่ ซึ่งอาหารจะจมลงน้ำ ทำให้คุณภาพของน้ำลดลงอกด้วย ควรตรวจสอบอย่างละเอียดถึงส่วนประกอบของอาหาร และให้แน่ใจว่าสารอาหารสำหรับปลามีความพอเหมาะ ควรใช้ความรู้ต่างๆ เสือกสารอาหารให้กับปลาคาร์ฟอาหารที่เตรียมสำเร็จ จะให้โครงสร้างพื้นฐานที่ดีแก่ปลา แต่ต้องมีสารอาหารชนิดอื่นในปริมาณที่เท่ากันด้วย และให้ใช้อาหารที่เตรียมพิเศษไว้สำหรับปลาคาร์ฟเท่านั้น อย่านำไปใช้กับปลาชนิดอื่นการดูแลรักษาอาหารนั้น ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ต้องตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ ความร้อนและความชื้นจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม วิตามีนจะมีความไวต่อความรู้สึกกับความร้อน โดยทั่วไปแล้วอาหารที่เตรียมสำเร็จ ควรจะเก็บไว้ในที่ที่เย็นและแห้ง สามารถเก็บได้นานถึง 90 วัน ไม่ควรที่จะให้โดนอากาศด้วย
อาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิต
อาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิต เป็นอีกแหล่งอาหารหนึ่งที่มีสารอาหารมาก อย่างไรก็ตามอาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิตก็อาจจะเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่ปลาคาร์ฟได้ แต่อาหารประเภทนี้ก็สามารถหาได้ง่ายจากผู้จำหน่าย หรือร้าน ขายสัตว์เลี้ยง และปลอดภัยกว่าไปหาอาหารประเภทนี้จากแหล่งน้ำหรือห้วย หนองคลองบึงมีอาหารประเภทนี้อยู่แค่ 2 ชนิด ที่ไม่เป็นพาหะนำโรคและปลอดภัยที่จะนำมาเป็นอาหารของปลาคาร์ฟ คือ ไส้เดือนและไรน้ำเค็ม ซึ่งของเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ง่าย
ไรน้ำเค็ม (Brine Shrimp)
ไรนาเค็มหรือเรียกอกอย่างหนึ่งว่า Artemid Sdlina มีต้นกำเนิด มาจาก Great Salt Lake พวกมันเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญกับ ปลาคาร์ฟและสามารถหาได้ง่าย ในอาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้น พวกมันปลอดภัยที่สุด เพราะไม่เป็นพาหะนำโรค ข้อได้เปรียบของไรน้ำเค็ม คือ สามารถเลี้ยงพวกมันได้ด้วยตัวของคุณเองไข่ไรน้ำเค็ม |
1. ใส่เกลือ 12 ออนซ์ต่อน้ำ 1 แกลลอน ในภาชนะพลาสติกหรือแก้ว
2. ให้วางเครื่องอัดอากาศไว้ที่ก้นของภาชนะบรรจุ และเก็บมัน ให้ห่างออกจากการเคลื่อนที่ของหิน
3. ใส่เกลือแมกนีเซียมชัลเฟต 2 ออนซ์ และใส่โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ออนซ์ต่อนา 1 แกลอน ในภาชนะบรรจุ
4. ใส่ไข่ไรน้ำเค็มลงไปในส่วนผสมทั้งหมดที่ไว้แล้วข้างต้นควรถืออย่างระมัดระวัง เพราะไข่มีขนาดเล็กและละเอียดอ่อน
5. ที่อุณหภูมิ 24 องศา C ไข่ของไรนำเค็มจะเปลี่ยนเป็นไรน้ำเค็มเติมตัวภายใน 2 วัน และควรจะเลี้ยงต่อไปในผงฟู จนกระทังมันเหมาะสม ที่จะนำไปเป็นอาหารให้กับปลา
ไส้เดือน
ไส้เดือนดิน |
เจ้าของสนามหลังบ้านพวกนี้อุดมไปด้วยโปรตีนและเป็นแหล่ง โภชนาการที่หาง่าย จะพบพวกมันได้หลังจากที่ฝนตก ที่สนามหญ้ารอบๆ สระน้ำหรือหนอง หรือบึง พวกมันจะอยู่ใต้ก้อนหินหรือสามารถที่จะเลี้ยงมันก็ได้
สำหรับการเลี้ยงไส้เดือนนั้น ให้เตรียมดิน 2-3 ตารางหลา และ นำเอาผ้ากระสอบมาปูเหนือดินที่พรวนไว้แล้ว รดน้ำทุกๆ วันจนชุ่มน้ำ และในวันที่ 7 ให้ยกกระสอบทรายขึ้นมา จะพบไส้เดือนอยู่ใต้ผ้ากระสอบ สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่จะเก็บไส้เดือนนั้น ควรเป็นเวลาเช้าตรู่ก่อนที่น้ำค้างจะเหือดไป
ไส้เดือนเป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตอยู่ใต้ดิน ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องนำมันมาล้างให้สะอาดก่อนที่จะนำไปเลี้ยงปลา หลังจากที่ได้ไส้เดือนแล้วให้ล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวมัน แล้วนำมันไปใส่ใน ภาชนะหลุมที่มีฝาปิด และแช่มันไว้ในที่มืดหรือในที่ร่ม 2-3 วัน ล้างดินที่ เปื้อนตามตัวของมันออกทุกวัน แล้วค่อยนำมันไปเป็นอาหารให้กับปลา แต่ควรจะตัดมันให้เป็นก้อนลูกบาศก์เล็กๆ ก่อนและจำเอาไว้ว่า ปลาคาร์ฟตัวใหญ่จะกินไส้เดือนชิ้นใหญ่กว่าปลาคาร์ฟตัวเล็ก
ในระหว่างที่เลี้ยงไส้เดือน เพื่อที่จะนำมันมาเป็นอาหารให้กับปลาคาร์ฟนั้น จะต้องแน่ใจว่าในพื้นที่ที่เลี้ยงและเก็บไส้เดือนนั้น ปราศจากสารหรือยาฆ่าแมลง เพราะสารเคมีที่ติดไปกันไส้เดือนนั้นจะไปทำอันตรายปลาคาร์ฟได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น