วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คุณภาพของน้ำและเครื่องกรอง

ระบบกรองบ่อปลา
          ปลาคาร์ฟ นั้นต้องการอยูในน้ำที่สะอาดตามสภาวะแวดล้อมธรรมชาติของปลาจะชอบระบบน้ำที่สะอาด การหายใจและกระบวนการย่อย อาหารจะถูกขจัดออกและถูกกรองโดยธรรมชาติ ในทางตรงกันข้าม ปลา ที่อาศัยอยู่ในบ่อที่มีระบบปิด ยังคงการหายใจและการย่อยอาหาร จนกระทั่งมันถูกแยกออกจากกลุ่ม เครื่องกรองจะเป็นเครื่องมือที่กรองเอาสสารที่เป็นพิษต่อบ่อปลาออก ก่อนที่จะตรวจสอบระบบการกรองและชนิดของ เครื่องกรอง ควรจะเข้าใจในคุณลักษณะของระบบขจัดของเสียของปลา และต้องคำนึงถึงลักษณะของคุณภาพน้ำด้วย

          ปลาน้ำจดมีการปรับตัวต่อสภาพที่อยู่อาศัยได้ดี แต่ละสายพันธุ ก็จะมีความชอบในการอาศัยอยู่ในน้ำที่ต่างกัน ปลาคาร์ฟ มีความทนทาน ต่อความแตกต่างของสภาวะของน้ำต่างกัน การดูแลที่ดีต้องหลีกเลี่ยงการ ใส่สารเคมีลงในน้ำ ปัจจัยที่สำคัญของการรักษาคุณภาพของน้ำคือ ตรวจสอบค่า pH และระดับความกระด้างของน้ำด้วย

ค่า PH

          ปริมาณของความเป็นกรด-ด่างในน้ำ เรียกกว่า ค่า pH มีค่าอยู่ ระหว่าง 0-14 ส่วนค่า pH 7 มีค่าเป็นกลาง pH 1 มีค่าเป็นกรด pH 14 มีค่าเป็นด่าง มาตราส่วนนี้เป็นเลขยกกำลัง หมายความว่าตัวเลขแต่ละตัว คือเลขฐาน 10 ที่มีค่ามากกว่าตัวเลขทอยู่ข้างหน้า ยกตัวอย่างเช่น ค่า pH 2 เป็นเลขฐาน 10 จะมีค่าเป็นกรดมากกว่าค่า pH 3 และเลขฐาน 100 มีค่าความเป็นกรดมากกว่าค่า pH 4

          ค่าความเป็นกรดของน้ำ และค่า pH ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน คือ จำนวนคาร์บอนไดออกไซด์และการถ่ายของเสียของปลาในน่า โดย ทั่วไป ปลาคาร์ฟ จะทนทานต่อทุกค่า pH ทุกระดับ เครื่องมือที่ตรวจสอบ ปริมาณ pH ทุกๆ สัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์ เพี่อหาความเปลี่ยนแปลง โดยปกติค่า pH ควรอยู่ระหว่าง 3.6 และ 8.0

          ในทางกลับกันปลาในเขตร้อน ค่า pH ต่ำจะเกิดปัญหากับบ่อ ปลาที่อยู่ภายนอก นอกจากของเหลวที่ไหลออกและน้ำฝนจะมีผลต่อปลา ค่า pH ของบ่อปลาจะคิดจากจำนวนพืชที่อยู่ในบ่อ โดยเฉพาะสาหร่ายนั้นจะผันแปรในระดับ 7.0-11.0 ในระดับค่า pH เช่นนี้จะกดดันปลาคาร์ฟมาก แต่ว่าพวกมันก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ปลาที่ ใส่ลงไปในบ่อใหม่ส่วนใหญ่จะตาย หลังจากที่ปล่อยมันลงน้ำแล้ว เพราะการเปลี่ยนแปลงค่า pH อย่างรวดเร็วผลคือทำให้ปลาปรับตัวไม่ได้ ปลาคาร์ฟ ที่ยังเล็กจะมีความรู้สึกไวต่อการเปลี่ยนแปลงค่า pH มากกว่าปลาคาร์ฟ ที่โตแล้ว ถ้าค่า pH มีค่าเกินกว่ามาตรฐานปกติ ปลาคาร์ฟ จะปรับตัว โดยใช้สารที่ทำให้กรดและด่างเป็นกลาง การปรับตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่เกินกว่า 0.2 หน่วยต่อวัน

ความกระด้างของน้ำ

          ปริมาณของสารละลายเกลอที่เรียกกว่า แคลเซียมและแมกนีเซียม จะเป็นตัวกำหนดความกระด้างของน้ำ น้ำที่มีปริมาณสารละลายเกลือเข้มข้นจะเป็นน้ำกระด้าง ถ้ามีปริมาณสารละลายเกลือต่ำจะเป็นน้ำอ่อน ความกระด้างจะวัดเป็นองศาของมาตราส่วนความกระด้าง (dH) ในระดับ 0° ถึง 30° ค่า dH 4° ถึง 8° จะเป็นน้ำอ่อน และค่า dH 18° ถึง 30° จะเป็นน้ำกระด้าง อัตราส่วนนี้จะเป็นมาตราส่วนต่อล้าน (ppm) น้ำอ่อนจะมีค่าน้อยกว่า 75 ppm น้ำกระด้างจะมีค่า ppm อยู่ระหว่าง 150 ppm ถึง 300 ppm

          ปลาคาร์ฟ จะชอบน้ำกระด้างที่มีรุนแรง คืออยู่ในระดับ 50 ppm ถึง 150 ppm ควรใช้เครื่องมอที่ตรวจสอบค่า ppm ไว้สำหรับควบคุมน้ำในบ่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่น้ำเป็นน้ำอ่อน

          การควบคุมระบบน้ำในบ่อปลา ปลาคาร์ฟ ที่มีสุขภาพดีจะชอบ อยู่ในน้ำที่สะอาดและมีสภาพสมดุล ควรจะตรวจสอบค่า pH และความ กระด้างของน้ำ แม้ว่าปลาคาร์ฟจะเป็นปลาที่สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสภาวะ แต่พวกมันถูกกดดัน และจะป่วยตายไปถ้าไม่รักษาสภาพน้ำ ให้เหมาะศม

วัฏจักรไนโตรเจน

ตัวกรองหยาบ
          ปลาคาร์ฟ ก็เหมือนปลาทั่วๆ ไปคือ ได้รับพลังงานมาจากอาหาร และเผาผลาญพลังงาน โดยมืออกชิเจนจากน้ำมาช่วยในการหายใจ กระบวนการนี้เกิดมาจากของเสียที่กลับมาสู่ธรรมชาติโดยทางเหงือกและทวาร หนักของปลา

          ของเสียเหล่านี้ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์และไนโตรเจน เซ่น แอมโมเนีย ในระบบกำจัดของเสียของบ่อน้ำ ของเสียเหล่านี้จะถูกขจัดไปหรือไปเปลี่ยนค่า pH โดยจะจัดการกับเชื้อโรคของปลาลดการเจริญเติบโตและทำลายเหงือก คาร์บอนไดออกไซด์จะออกจากน้ำโดยผ่าน อากาศที่อยู่บนผิวน้ำส่วนประกอบของไนโตรเจนที่เป็นพิษก็จะถูกเปลี่ยน ให้มีพิษน้อยที่สุด โดยวัฏจักรไนโตรเจน

ธรรมชาติหมุนเวียน

          ในธรรมชาติ วัฏจักรไนโตรเจนรวมถึงระบบการก่ายของเสียและ แอมโมเนียที่ไม่เป็นอันตรายต่อแบคทีเรีย แบคทีเรียจะเปลี่ยนการขับถ่ายของเสียเป็นแอมโมเนีย แอมโมเนียเปลี่ยนเป็นไนไตรท์ และไนไตรท์เปลี่ยน เป็นไนเตรท และไนเตรทใช้เป็นปุ๋ยของพืชหรือเปลี่ยนเป็นก๊าชไนโตรเจน และถูกกำจัดโดยน้ำ

การหมุนเวียนในบ่อปลา

          บ่อปลาที่อุดมสมบูรณ์นั้น ขึ้นอยู่กับวัฎจักรไนโตรเจนที่จะไปลด แอมโมเนียที่เป็นพิษให้เป็นสารประกอบไนโตรเจน ในระบบของบ่อปลา ทั่วๆไปไนเตรทจะเพิ่มขนอย่างช้าๆ ในน้ำ เพราะจำนวนของพืชและแบคทีเรียจำเป็นในการใช้ประโยชน์ของไนเตรท หรืออาจกลับไปเป็นก๊าซออกซิเจน ถ้าบรรยากาศภายในบ่อขาดการขจัดไนเตรทควรจะทำบ่อยๆ และควรจะทำระหว่างการเปลี่ยนน้ำในบ่อด้วย

          เมื่อสภาพของบ่อดแล้ว ควรจะตรวจสอบระดับแอมโมเนียไนไตรท์ และไนเตรทในบ่อ โดยใช้ชุดเครื่องมือที่ตรวจสอบโดยเฉพาะ และควรจะตรวจสอบตามกำหนดเวลา เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าของเสียจะไม่ มีการสะสมอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย

ระบบกรองบ่อปลาคาร์ฟ 21 ตัน กับ 3.5 ตัน ครับ@ KUN_TAE โดย TaeFight Fight


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น